เพลิดเพลินไปกับออนเซ็น หรือมื้ออาหารที่ปรุงด้วยปลาสดหรือขนมหวานต่างๆ ซึ่งอยู่ในอาคารที่สร้างเชื่อมต่อกับสถานี นับเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนระหว่างนักท่องเที่ยวและชาวบ้านท้องถิ่น และยังมีซุ้มให้ทำสบู่แฮนด์เมดที่ใช้วัตถุดิบจากทะเลอีกด้วย

ตั้งอยู่บนเนินสูงเล็กๆ มีทิวทัศน์งดงาม จากเนินสามารถมองเห็นเมืองอิชิมากิทั้งเมืองไปจนถึงทะเล นักกวีและนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นต่างมาเยือนที่นี่ และทิ้งผลงานไว้เบื้องหลัง ภาพซากุระบานสะพรั่งพร้อมกัน 400 ต้น นับเป็นภาพที่งดงามตระการตา ช่วงซากุระบาน: กลาง-ปลายเดือนเมษายน

พิพิธภัณฑ์ของอิชิโนะ โมริโชทาโร่ นักเขียนมังงะที่สร้างสรรค์ผลงานชื่อดัง เช่น "หน้ากากไรเดอร์"ภายในจัดแสดงงานต้นฉบับและฉายภาพยนตร์แอนิเมชั่นต้นฉบับ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแปลงร่างเป็นหน้ากากไรเดอร์ด้วย

หมู่เกาะจำนวนกว่า 260 เกาะที่ตั้งอยู่ในและนอกอ่าวมัตสึชิมะของจังหวัดมิยากิ ความงามของธรรมชาติที่สร้างขึ้นโดยขอบฟ้าที่ยิ่งใหญ่และเกาะต่าง ๆ นั้นเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น

วัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ ภายในวัดมีสวนหินที่สร้างขึ้นเมื่อ 350 ปีก่อน บรรยากาศชวนให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย และยังสามารถประดิษฐ์กำไลลูกปัดหิน เครื่องประดับของศาสนาพุทธที่เชื่อว่าช่วยปัดเป่าภัยร้ายได้

สวนสาธารณะที่สามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเกาะ "มัตสึชิมะ" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ผลิซากุระผลิบานกว่า 260 ต้น นับเป็นทัศนียภาพที่ผสมผสานระหว่างความงามของซากุระและเกาะมัตสึชิมะซึ่งหาชมได้ในช่วงเวลานี้เท่านั้น ช่วงซากุระบาน: กลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม

ศาลเจ้าที่เชื่อว่าช่วยนำโชคลาภ ผลกำไร ชัยชนะ ในการทำประมงจับได้ปลาตัวใหญ่และออกทะเลได้อย่างปลอดภัย ภายในศาลเจ้าปลูก "ชิโองามะซากุระ" เป็นสายพันธุ์เอกลักษณ์ที่มีกลีบซ้อนถึง 35-50 กลีบ เป็นซากุระที่มีคุณค่ามากจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของญี่ปุ่น ช่วงซากุระบาน: ต้นเดือนพฤษภาคม

ที่นี่มีร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นตั้งเรียงรายอยู่ราวๆ 120 ร้าน และยังจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของท้้ง 6 จังหวัดในภูมิภาคโทโฮกุ ที่นี่ท่านยังสามารถชมวิวท่าเรือในมุมสูงผ่านชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค หรือจะรับประทานอาหารขึ้นชื่อ ซึ่งก็คือเมนูลิ้นวัวย่างและอาหารทะเลสดใหม่ได้อีกด้วย เรามีที่จอดรถมากถึง 2000 คันเพื่อให้ท่านสามารถจับจ่ายใช้สอย และรับประทานอาหารได้อย่างสบายใจ

ซากปรักหักพังของปราสาทตระกูลดาเตะที่ผลิตข้าวเลี้ยงประชากรได้ถึง 620,000 คนต่อปี (หน่วยวัดเพื่อประเมินความมั่งคั่งของตระกูลในอดีต) สามารถชมทัศนียภาพของเมืองเซนไดได้ และตั้งแต่พระอาทิตย์ตกจนถึง 5 ทุ่ม จะมีการเปิดไฟที่ประดับอนุสาวรีย์ท่านดาเตะและกำแพงหินทางทิศเหนือของฮอนมารุให้ชมกัน