มีหอนิทรรศการที่จัดแสดงแผงลอยของ "เทศกาลฮานะวะบายาชิ" ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก และสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองคาซูโนะ

จัดวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์พิเศษหลากหลาย เช่นงานฝีมือแบบดั้งเดิม "งานถักไม้เถา" สาเกท้องถิ่นและโชยุ นอกจากนี้ยังมีซอฟต์ครีมรสลาเวนเดอร์และไอศครีมเมกะซอฟต์ที่ซ้อน 7 ชั้นก็ได้รับความนิยมมาก

จากเท็นโนสกายทาวเวอร์จะมองเห็นวิวของทะเลสาบฮะจิโรงาตะและคาบสมุทรโอะงะ สถานที่แห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่นบ่อน้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับ พื้นที่อันเขียวชอุ่มสำหรับปิกนิกและบาร์บีคิว

ศูนย์ส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ที่ภูมิใจที่มีพื่นที่กวางที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งมีการจัดเรียงผลิตภัณฑ์มากมาย อย่างผลิตภัณฑ์พิเศษของเมืองนิคาโฮะ เส้นอินานิวะอุด้งและศิลปะพื้นบ้าน จากห้องอาบน้ำพุร้อนที่อยู่ชั้น 4 จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลญี่ปุ่น

สถานีพักระหว่างทางที่ตั้งอยู่ตามทางหลวงหมายเลข 108 ซึ่งมีร้านค้าที่จัดเรียงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ผลิตในท้องถิ่นและร้านอาหารที่สามารถลิ้มรส "เส้นโจไคโคมาจิ" ที่ใช้แป้งข้าวที่ผลิตจากโจไค

โตรกแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นจุดท่องเที่ยวและอนุสรณ์ทางธรรมชาติสำคัญประจำจังหวัดด้วยน้ำตกสามชั้นและหกชั้นซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน ตลอดเส้นทางน้ำประมาณ 4 ก.ม. มีน้ำตกแปลกตา อาทิเช่น น้ำตกแนวขวาง น้ำตกหักโค้ง น้ำตกถ้ำ ฯลฯ ให้ชม และท่านยังสามารถล่องเรือชมมหาสมุทรแปซิฟิกได้ที่นี่อีกด้วย

เขาโมริโยชิที่ระดับความสูง 1454ม. เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในร้อยภูเขาที่มีชื่อเสียงเพราะเป็นบ้านของพืชพรรณนานาชนิด และยังมีมอนสเตอร์หิมะรวมทั้งลานสกีในฤดูหนาว เพื่อชมวิวธรรมชาติในมุมสูงแบบ360 องศา ที่นี่มีลิฟต์กอนโดลา ความยาว 3.5 ก.ม. ใช้เวลา 15 นาทีจนถึงยอดเขา บรรจุได้สูงสุด 6 ที่นั่ง จากในลิฟต์ ท่านสามารถชมวิวอันน่าประทับใจของละอองหิมะโปรยปราย และเขาอะนิซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นบนเขาได้จนถึงชั้นที่แปด

หอประชาสัมพันธ์แห่งนี้แนะนำทะเลสาบวิวสวยซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแข่งกีฬาพายเรือแคนาเดียนแคนู และภาพที่มาของทะเลสาบตั้งแต่ก่อนสร้างเขื่อน และยังมีนิทรรศการจัดแสดงอุปกรณ์และโบราณวัตถุที่ขุดพบระหว่างการสร้างเขื่อน จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นเขื่อนได้ทั้งหมด ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้กันจัดจำหน่ายขนมโฮมเมดทำจากวัสดุในท้องถิ่นและผักสดพื้นบ้าน

ทะเลสาบไทเฮซึ่งมองเห็นเป็นอารมณ์ต่างๆตามฤดูกาลทั้งสี่ แม้จะเป็นทะเลสาบฝีมือมนุษย์ ทะเลสาบแห่งนี้มีเส้นรอบวง 30 ก.ม. และความลึก 58 ม. และเป็นจุดรวมของน้ำจากลำธารน้อยใหญ่ทั้งหมด 13 สายจากในหุบเขา จึงทำให้จับปลาได้มากเช่นกัน เมื่อมาถึงที่นี่เราขอแนะนำให้ท่านล่องเรือชมทะเลสาบสักหนึ่งรอบนะ

เมืองที่มีประวัติความเป็นมาร่วมกับกลองไทโกะประมาณ 700 ปีมาแล้ว ที่นี่มีจัดแสดงกลองไทโกะซึ่งถูกบันทึกลงในกินเนสบุ๊ค ตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 3.71ม. และกลองประเภทต่างๆทั่วโลก อาคารใกล้กันนั้นเป็นสถานที่จำหน่ายกลองไทโกะแบบต่างๆและสินค้าอื่นๆสำหรับเป็นของฝาก

ในอดีตรางรถไฟนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่สัญจรของจักรยานรถไฟซึ่งถูกใช้ในการลำเลียงของจากเหมืองแร่ออกไป ที่นี่มีความงดงามทางธรรมชาติมากโดยเฉพาะช่วงดอกไม้บานและช่วงแตกใบอ่อน สะพานแขวนที่พาดผ่านลำธารทำให้ได้ลิ้มรสความตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆด้วย

สุนัขอาคิตะเป็นเอกลักษณ์ซึ่งยังคงมีชีวิตของจังหวัดอาคิตะ ลักษณะเด่นของสุนัขคือ มีหูเป็นรูปสามเหลี่ยม ร่างกายที่ใหญ่ และนิสัยรักความสงบ ในพิพิธภัณฑ์ นอกเหนือจากการจัดแสดงนิทรรศการเอกสารต่างๆ ยังมีจัดจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เช่น พวงกุญแจสุนัขอาคิตะและเสื้อยืด ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ท่านสามารถชมและเล่นกับสุนัขอาคิตะพันธุ์แท้ได้

เส้นทางฮักโกตะซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจากทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ยังไม่ดับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ด้านหน้าสามารถมองเห็นทะเลสาบโอคุยามะ ซึ่งเป็นทะเลสาบหนึ่งในโทวาดะ และมีเขาฮักโกตะฝั่งทิศใต้เป็นแบ็คกราวด์ที่สวยงาม

ซากุระริมฝั่งตลิ่งปลูกเป็นแนวยาว 2 กม. เป็นอุโมงค์ซากุระผลิบานสีชมพูและประดับไฟยามค่ำคืนสะท้อนบนผิวแม่น้ำสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน ช่วงซากุระบาน: กลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม

ในกลุ่มหิน"ชิโอเซซากิ"ที่เกิดขึ้นจากหินภูเขาไฟละลาย มีหินอยู่ก้อนหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับก็อตซิล่า เมื่อตกเย็นจะเห็นหินสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเย็นเบื้องหลังเป็นฟ้ายามเย็นสีแดงมองเห็นราวกับก็อตซิล่ากำลังพ่นไฟ

ทุ่งดอกไม้แผ่กว้างราวพรมสีเหลืองเป็นระยะ 11 กม. เลียบฝั่งถนน สีชมพูของดอกซากุระและสีของต้นคุโดระมัตสึตัดกันอย่างสวยงาม ที่หมู่บ้านโองาตะแห่งนี้ยังมีทุ่งดอกไม้นะโนะฮานะกว้างใหญ่ เมื่อดอกผลิบานประมาณต้นเดือนพฤษภาคมจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันเป็นจำนวนมาก ช่วงซากุระบาน: ปลายเดือนเมษายน-ปลายเดือนพฤษภาคม

สวนสาธารณะฮงโจที่ในอดีตเคยเป็นปราสาทนั้นมีชื่อเสียงเนื่องจากมีซากุระกว่า 1,200 ต้นและดอกสึสึจิหรือดอกอาซาเลียกว่า 12,000 ต้น ภายในสวนยังมีอาคารออนเซ็นและสถานที่พักผ่อน จากอาคารสามารถชมดอกไม้ได้ ช่วงดอกไม้บาน: กลาง-ปลายเดือนเมษายน

ดอกซากุระจะบานเป็นที่แรกในจังหวัดอาคิตะ ในฤดูใบไม้ผลิซากุระจะผลิบานรอบๆทะเลสาบที่มีภูเขาโจไคซึ่งมีหิมะอยู่บนยอดเป็นฉากหลัง นับเป็นทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิประเทศทางเหนือ ช่วงซากุระบาน: กลาง-ปลายเดือนเมษายน