• จังหวัดมิยาก


สุนัขจิ้งจอกกว่า 100 ตัวถูกเลี้ยงแบบปล่อยไว้ในป่า ท่านสามารถสังเกตเห็นสุนัขจิ้งจอกที่ดึงผ้า ซึ่งเป็นด้านที่น่ารักของสุนัขจิ้งจอกที่อาจไม่รู้มาก่อน
ถนนที่จะข้ามเทือกเขาซะโอไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งสามารถเพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ที่งดงาม เช่น ภูมิทัศน์ที่ไม่ซ้ำกัน หรือ พืชที่เจริญเติบโตบนภูเขาสูง และตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายน จะสามารถขับรถบนเส้นทางที่ถูกห่อหุ้มด้วยใบไม้เปลี่ยนสี
ทะเลสาบทรงกลมที่เกิดจากการยุบตัวของปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาคัตตะดาเกะ ภูเขาคุมะโนะดาเกะและภูเขาโงะชิกิดาเกะของเทือกเขาซะโอ สีสันที่ตัดกันระหว่างผิวทะเลสาบสีเขียวมรกตและผนังหยาบ ๆ ของปล่องภูเขาไฟนั้นช่างลึกลับจริง ๆ
น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีสายน้ำกว้าง 6 เมตร สูงกว่า 55 เมตร เป็นจุดชมวิวที่กล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในสามน้ำตกชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถเพลิดเพลินไปกับน้ำตกที่มีชีวิตชีวาและใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามได้
พิพิธภัณฑ์นี้มีตั้งแต่ตู้ปลาขนาดใหญ่ที่จำลองสิ่งมีชีวิตในทะเลของ "ซานริกุ" ไปจนถึงการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์จากทั่วโลก และยังสามารถชมการแสดงของปลาโลมาและสิงโตทะเลได้ด้วย
สถานีพักระหว่างทางชั้นนำในโทโฮกุที่ได้รับความนิยมมากที่น่าภาคภูมิใจ ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวถนนที่เชื่อมต่อจังหวัดมิยากิและจังหวัดยามางาตะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน รวมถึงที่ทำขนมปังโฮมเมดและร้านอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์
หุบเขาใหญ่ที่มีความลึกถึง 100 เมตร ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี มวลหมู่ต้นไม้รอบ ๆ จะถูกย้อมสีด้วยสีแดงและสีเหลืองตัดกับกระแสภูเขา ทำให้ทิวทัศน์นั้นงดงามมาก
หมู่บ้านที่ประกอบด้วยบ่อน้ำพุร้อน 5 แห่งที่ตั้งอยู่ใจกลางของภูมิภาคโทโฮกุ ซึ่งสามารถเพลิดเพลินไปกับการทัวร์น้ำพุร้อนที่มีเสน่ห์อยู่ที่คุณภาพของน้ำพุที่แตกต่างกันทั้ง 9 ชนิด
สถานที่พักรถและสถานที่เผยแพร่ข้อมูลที่สะดวกสบาย ซึ่งมีทั้งร้านอาหารและร้านจำหน่ายผัก ขนมโมจิและกับข้าวท้องถิ่น รวมถึงบ่อน้ำพุร้อน
หมู่เกาะจำนวนกว่า 260 เกาะที่ตั้งอยู่ในและนอกอ่าวมัตสึชิมะของจังหวัดมิยากิ ความงามของธรรมชาติที่สร้างขึ้นโดยขอบฟ้าที่ยิ่งใหญ่และเกาะต่าง ๆ นั้นเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น
สุสานของท่านมิสึมุเนะ ลูกชายคนที่สองของท่านทาดะมุเนะ ซึ่งเป็นขุนนางครองเมืองเซนไดรุ่นที่สอง ธรรมชาติของสี่ฤดูกาลจะผ่อนคลายสายตา โดยเฉพาะใบไม้เปลี่ยนสีที่ประดับด้วยแสงไฟในฤดูใบไม้ร่วงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดชม ประสบการณ์การทำสายลูกประคำก็ได้รับความนิยมมาก
ซากปรักหักพังของปราสาทตระกูลดาเตะที่ผลิตข้าวเลี้ยงประชากรได้ถึง 620,000 คนต่อปี (หน่วยวัดเพื่อประเมินความมั่งคั่งของตระกูลในอดีต) สามารถชมทัศนียภาพของเมืองเซนไดได้ และตั้งแต่พระอาทิตย์ตกจนถึง 5 ทุ่ม จะมีการเปิดไฟที่ประดับอนุสาวรีย์ท่านดาเตะและกำแพงหินทางทิศเหนือของฮอนมารุให้ชมกัน
จัดวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์มากมาย ตั้งแต่สินค้าแปรรูปจากถั่วปากอ้า อย่างเส้นอุด้งที่ทำจากถั่วปากอ้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษของเมืองมูระตะ ไปจนถึงผักดองทำด้วยมือ และยังจัดแสดงและจำหน่ายงานฝีมือกับเครื่องปั้นดินเผาของศิลปินที่อาศัยอยู่ในเมือง
ตลาดที่ขายปลาและอาหารทะเลสด ๆ ในราคากันเอง ซึ่งผู้มาเยือนนิยมทำข้าวหน้าปลาดิบในแบบของตัวเอง โดยใช้ซาซิมิที่ซื้อในตลาดมาแต่งบนข้าว
ร้านจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พิเศษและสินค้าแปรรูปในท้องถิ่นและสินค้าตัวมัสคอตของเมืองฮิงะชิมัตสึชีมะที่มีชื่อว่า "โน้ต" ซึ่งเป็นร้านที่นิยมในท้องถิ่น
พิพิธภัณฑ์มังงะที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ในโลกของนักเขียนมังงะ อาจารย์ โชทะโร อิชิโนะโมริ ซึ่งมีห้องสมุดที่เก็บหนังสือกว่า 6,000 เล่มและโรงฉายอะนิเมะ
ฟาร์มซึ่งมีพื้นที่กว่า 100 เฮกเตอร์และเป็นที่อยู่อาศัยอันกว้างใหญ่สำหรับวัวและแกะได้พักผ่อนอย่างสบาย ในฟาร์มมีทั้งคาเฟ่อาหารประเภทชีส ร้านเจงกีสข่าน(เนื้อแกะย่าง) ห้องเรียนสอนทำชีสและไส้กรอก (ต้องจองก่อนเข้าใช้บริการ)
น้ำตกสามชั้น สูง181ม. กว้าง7ม.ตัวน้ำตกมีความงดงามเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาค น้ำตกแห่งนี้ติดอันดับหนึ่งในร้อยน้ำตกแนะนำของญี่ปุ่น โดยเฉพาะวิวในฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด
น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดบนเทือกเขาซะโอ บริเวณที่น้ำตกกระทบธารด้านล่างมีรูปปั้นฟุโดเมียวโอประดิษฐานอยู่อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตก ในช่วงที่เทือกเขาอุดมไปด้วยสีเขียวสดท่านจะได้ชมน้ำตกที่แยกเป็นสามสาย ฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้แดงสวยในบรรยากาศที่เงียบสงบ
อารามเก่าแก่ที่มีอายุถึง 807 ปี และตั้งอยู่ในเมืองมัตสึชิมะ จุดวิวแนะนำหนึ่งในสามของญี่ปุ่น ด้านในประดิษฐานรูปปั้นโกะไดเมียวโอ ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออาราม รูปปั้นทั้ง 5 องค์นี้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีและจะนำออกมาแสดงเพียงหนึ่งครั้งในรอบ33ปีเท่านั้น

1

2