อารามเก่าแก่ที่มีอายุถึง 807 ปี และตั้งอยู่ในเมืองมัตสึชิมะ จุดวิวแนะนำหนึ่งในสามของญี่ปุ่น ด้านในประดิษฐานรูปปั้นโกะไดเมียวโอ ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออาราม รูปปั้นทั้ง 5 องค์นี้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีและจะนำออกมาแสดงเพียงหนึ่งครั้งในรอบ33ปีเท่านั้น
ร้านจำหน่ายหอยนางรมย่างทั้งเปลือกที่จะเปิดในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ในช่วงเวลาที่กำหนดคุณสามารถกินหอยนางรมมากเท่าไรก็ได้ หอยนางรมของมัตสึชิมะอุดมไปด้วยแร่ธาตุปริมาณมหาศาล เตรียมไว้ให้คุณรับประทานอย่างจุใจ
คันรันเทย์ซึ่งมีความหมายถึงการชมความงามระลอกคลื่นนั้น เดิมอาคารนี้ถูกใช้เป็นที่พักของเจ้าผู้ครองเมืองและบรรดาเจ้าหญิงรวมทั้งสำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ลวดลายบนภาพวาดอันงดงามที่ถูกเขียนบนผนังกั้นห้อง และภาพวาดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ อาคารนี้เดิมถูกเรียกว่า "อาคารชมจันทร์" ด้วยความงามของพระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วงของที่นี่ ทำให้มีการจัด"พิธีชมจันทร์"ขึ้นในเดือนกันยายนที่พระจันทร์สวยที่สุด
หน้าผาธรรมชาติที่มีความสูง 80-150 ม.และมีความยาวมากกว่า 3 กิโลเมตร เมื่อมองเข้าไปจึงได้เห็นภาพพาโนราม่าที่ยิ่งใหญ่ กำแพงซึ่งเหมือนกำบังขนาดใหญ่ด้วยเนื้อหินและรูปร่างมีความงามเฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ผลิ และช่วงใบไม้เปลี่ยนสียิ่งเพิ่มความงามตามธรรมชาติให้มากขึ้นอีก
ที่นี่มีร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นตั้งเรียงรายอยู่ราวๆ 120 ร้าน และยังจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของท้้ง 6 จังหวัดในภูมิภาคโทโฮกุ ที่นี่ท่านยังสามารถชมวิวท่าเรือในมุมสูงผ่านชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค หรือจะรับประทานอาหารขึ้นชื่อ ซึ่งก็คือเมนูลิ้นวัวย่างและอาหารทะเลสดใหม่ได้อีกด้วย เรามีที่จอดรถมากถึง 2000 คันเพื่อให้ท่านสามารถจับจ่ายใช้สอย และรับประทานอาหารได้อย่างสบายใจ
โตรกโมกามินั้นเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมใบไม้แดงเลื่องชื่อของจังหวัดยามางาตะ ซึ่งจะมองเห็นแม่น้ำโมกามิทั้งสายต่อเนื่องกัน ทิวทัศน์ของแม่น้ำโมกามิที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกฤดูกาล ด้วยบรรยากาศของทิวเขาซ้ายขวา และยังมีน้ำตกที่ติดอันดับหนึ่งในร้อยของญี่ปุ่นด้วยความสูง 120 เมตร นามว่า ชิราอิโตะโนะทาคิ ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวงดงามแห่งหนึ่ง
เจดีย์ห้าชั้นซึ่งถูกเล่าขานว่าสร้างขึ้นจากทรัพย์สินส่วนตัวของผู้บัญชาการทหารที่มีชื่อเสียงนามว่า ไทระโนะมาซาคาโดะ เจดีย์ทำจากไม้มีความสูงประมาณ 29 เมตร ได้รับการลงทะเบียนเป็นสมบัติของชาติในฐานะหอคอยที่เก่าแก่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใกล้กันนี้ยังต้นโอสึกิเก่าแก่อายุพันปี นามว่า"จิสุกิ" งดงามเป็นที่น่าประทับใจ
ถนนที่สวยงามและเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนาราวกับกรุงเมกกะสำหรับจังหวัดยามากาตะ ในอดีตเส้นทางนี้เป็นทางผ่านของเหล่าผู้ประพฤติธรรม และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยถนนในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความงามของใบอ่อนในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสี หุบเขาแม่น้ำบงจิ อยู่ใกล้ๆสถานีพักระหว่างทาง “กัตซัง” การไปน้ำตกโคเมะโนะโกะ สามารถขับรถวนไปทางด้านหลังเส้นทาง “โคเมะโนะโกะโนะทากิ ไดร์ฟอิน” ได้
เมืองซางาเอะ มีชื่อเสียงในเรื่องการผลิตกุหลาบเป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะกุหลาบที่ใช้ลอยในอ่างอาบน้ำ น้ำพุร้อนกุหลาบแม้จะให้ความรู้สึกลื่นๆเล็กน้อย แต่มีสรรพคุณเพิ่มความสดชื่น และทำให้ผิวสวย ※หมายเหตุ อ่างอาบน้ำกุหลาบเปิดให้บริการที่ คับโปเรียวกัง โยชิโมโตะ (TEL: 0237-84-2138), โรงแรมซิมโฟนีแอเน็กซ์ (TEL: 0237-83-1222) เพียง 2 แห่งเท่านั้น เนื่องจากเวลาเปิดให้ใช้อ่างอาบน้ำอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนการเดินทาง
เขาซะโอขึ้นชื่อในเรื่องการปีนเขาฤดูร้อน การเล่นสกี และการชมมอนสเตอร์หิมะในช่วงฤดูหนาว มอนสเตอร์หิมะเป็นวิวที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อร่างสูงตระหง่านบนเนินเขาเหล่านั้นถูกสาดส่องด้วยแสงไฟในยามค่ำคืน จึงเป็นที่มาของชื่อ "มอนสเตอร์หิมะ"
บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งซึ่งตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของเมืองบ่อน้ำพุร้อน ตรงตำแหน่งที่กั้นระหว่างลานสกี บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มีบ่อสำหรับชายและหญิงขนาดใหญ่อย่างละ 2 บ่อ จุคนได้ถึง 200 คน ฤดูหนาวบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของลานสกี จึงเปิดทำการแค่เพียง กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
ฉากที่มีวิวฤดูใบไม้ร่วง และใบไม้สีเขียวสดบนหุบเขามีความสวยงามจนกลายเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมจนถึงประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ดึงดูดผู้คนให้มาเข้าชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งราวกับเปลวไฟสีแดงเพลิง
ตลาดซึ่งตั้งอยู่ชิดติดกับท่าเรือซาคาตะ ที่ตลาดปลาชั้นหนึ่งมีอาหารทะเลสดใหม่ เพิ่งนำขึ้นจากเรือประมงมากมาย โรงอาหารชั้นสองจำหน่ายอาหารชุด หรือข้าวหน้าปลาดิบสดใหม่ในราคาถูก จากที่นี่ยังสามารถมองเห็นวิวของท่าเรือซาคาตะได้อีกด้วย
ไวน์เนอร์รี่แห่งนี้นี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 ตลอดทั้งปีท่านสามารถเพลิดเพลินกับเชอร์รี่ญี่ปุ่นและองุ่น ฤดูหนาวก็สามารถเพลิดเพลินกับหิมะได้ และ คุณยังสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นขึ้นชื่อและวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้ที่นี่
เส้นทางที่เชื่อมระหว่างที่ราบสูงบันได กับเส้นทางบันไดอาซุมะสกายไลน์ (มีค่าผ่านทาง) จุดชมวิวซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดในเส้นทางนี้คือ "พาราไดซ์ 3 ทะเลสาบ" ซึ่งจะเป็นจุดเดียวที่สามารถมองเห็นทะเลสาบฮิบาระ ทะเลสาบอากิโมโตะ และทะเลสาบโอโนะกาวะ ได้อย่างชัดเจน ก่อนถึงจุดชมวิวนี้ ท่านสามารถแวะชมความงดงามของสีเขียวในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างจุใจ
หุบเขาซึ่งคงความงามตามธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน มีธารน้ำจากเขาอาซึมะ ซึ่งจะไหลไปรวมกันที่ทะเลสาบอากิโมโตะ ที่นี่ยังเป็นที่เลื่องลือในฐานะจุดชมใบไม้แดง และเหมาะสำหรับรับลมเย็นในฤดูร้อน ตัวหุบเขาตั้งอยู่ห่างจากเรสเฮาส์ไปประมาณ 15 นาที รวมทั้งมีคอร์สเดินป่าพาคุณชมธรรมชาติตั้งแต่หุบเขาไปจนถึงชายฝั่งทะเลสาบอีกด้วย
ทะเลสาบฮาโตริ เป็นทะเลสาบฝีมือมนุษย์ซึ่งขุดให้เชื่อมกับแม่น้ำสึรุนุมะ ในเรื่องพื้นที่ผิวทะเลสาบและปริมาณการกักเก็บน้ำทะเลสาบแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในญี่ปุ่น ชื่อฮาโตรินั้นมาจากชื่อของหมู่บ้านซึ่งเคยตั้งอยู่ในจุดที่เป็นทะเลสาบปัจจุบัน รอบๆมีลานแคมป์ คอร์สสำหรับปั่นจักรยาน และโซนรีสอร์ต
อารามหกเหลี่ยมสามชั้นบิดเป็นเกลียวคู่โดดเด่นในทางสถาปัตยกรรม ด้านในเปิดให้เดินเป็นทิศทางเดียว ตัวอารามจึงถูกสร้างให้มีทั้งทางขึ้นและทางลงแยกกัน ทำให้อารามนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแม้ในระดับโลก หากเดินครบเส้นทางนี้ เท่ากับว่าท่านจะได้สักการะรูปเคารพองค์เจ้าแม่กวนอิมครบทั้งหมด 33 องค์
เมื่อเดินผ่านต้นซีดาร์ซึ่งมาอายุกว่า 100 ปีมาแล้ว ท่านจะได้พบกับศาลเจ้ายามาโมโตะฟุโดซง ศาลเจ้าแห่งนี้เริ่มต้นจากพระธุดงค์นามว่า โคโบ ระหว่างที่ท่านธุดงค์ผ่านภูมิภาคโทโฮคุนั้น ท่านได้สร้างแท่นพิธีสำหรับขับไล่ภูติผีร้ายที่อาศัยอยู่ในบริเวณเขายามิโซ ใกล้กันนั้นมีสวนยามาโมโตะซึ่งมีความงดงามทางธรรมชาติให้ชมได้ในทุกฤดู (และยังมีทางเดินเลียบลำธารอีกด้วย)
วิวธรรมชาติอันงดงามซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของลมและฝนเป็นเวลากว่าร้อยล้านปีจนได้หน้าหินผาสีขาวที่งดงามเช่นนี้ คอนทราสต์ของหินและพืชพรรณโดยรอบงดงามโดดเด่นแก่สายตา คำว่า "เฮสึริ" มาจากภาษาท้องถิ่นซึ่งหมายความว่า "หน้าผาอันตราย" นั่นเอง

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12